Pages

Thursday, October 7, 2010

แสงแดด สายลม สองเรา... ไปภูเก็ตเบาๆ แบบไสตล์บูติค By น้องผักอ้วน

smile

เนื่องจากทริปนี้น้องผักอ้วนจะพาไปคลายร้อนกันที่ทะเลค่ะ และทุกครั้งส่วนใหญ่ที่เรานึกถึงทะเล ก็ต้องนึกถึงภูเก็ต เป็นชอยส์แรกใช่ไหมคะ  น้องผักอ้วนก็เช่นเดียวกันค่ะ เพราะว่าภูเก็ตเป็นสถานที่แรกที่ทำให้ค้นพบว่าตัวเองเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเดินทาง เมื่อมีโอกาส ก็จะกลับไปที่นี่เพื่อให้แสงบรรยากาศแห่งท้องทะเล หวนนำมาซึ่งความสุขครั้งแรกที่แสนประทับใจ ณ ที่แห่งนี้เสมอมาค่ะ

ส่วนที่บอกว่าสไตล์บูติคนั้น ก้ไม่ใช่นั่งเทียนเขียน  เพราะทริปนี้เราเดินทางโดยใช้สายการบิน  ที่มีสโลแกนว่า asia boutique airline นั่นเองค่ะ  haha


ก่อนอื่น ต้องแวะเช็คอิน พร้อมประชันความสวย

โดยมี  หมอปราเสริฐ กับ หมอยันฮี   ส่งเข้าประกวด  อิอิ



ได้รับ บอร์ดดิ้งพาสมา แล้วก็ตรงไปยังสถานที่แห่งนี้เลยค่ะ  ใครใครก็กินได้  เพียงแค่คุณมีบัตรโดยสารของสายการบินบางกอกแอร์เวยส์  ชั้นรากหญ้า รากแก้ว  เรามารวมกันที่แห่งนี้หมดค่ะ เข้าได้ทุกชนชั้น

ซึ่งคุณพี่คนสวยก็ยังคงตามมาให้เราสยบความงามอีกเช่นเคย  แถมใช้วิชาแยกร่างเป็นสองร่างสู้ตายอีกตะหาก  เช๊อะ!


โอเคๆ  ยอมก็ยอมค่า   ขี้แง


แต่สวยมาจากไหนก็ต้องแพ้ความไวเสมอค่ะ


เพราะน้องผักอ้วนจะกินให้เกลี้ยงเล้าจน์ในพริบตาเลย  อิอิ


เครื่องดื่มก็มีบริการทั้งร้อน ทั้งเย็นค่ะ  น่ากินจัง  (เครื่องดื่มนะคะ ไม่ใช่กล้ามนั่น)ฮ่าฮ่าฮ่า


นี่ค่ะ ขนมอันเลื่องชือของที่นี่  ที่เค้ามีสำนวนกล่าว่า กินขนมข้าวต้ม  ก็คงมีรากศัพท์มาจากที่แห่งนี้แหละค่ะ นี่ไง ขนมข้าวต้มของจริง    ใครบินบางกอกแอร์เวยส์ แล้วไม่ได้กินข้าวต้มมัด เสมือนมาทำเงินค่าตั๋วหล่นหายไปครึ่งนึงนะคะ  ขอบอกคำเดียวว่า "เริ่ด" ค่ะ   น้องผักอ้วนจัดให้แฟนไปหลายชิ้นอยู่ แฟนชอบมากมาย เอ ...หรือว่าติดอกติดใจส่วนผสมอะไรที่อยู่ในข้าวต้มมัดเป็นพิเศษหรือป่าวอันนี้ก็ไม่ทราบได้นะคะ  อิอิอิอิ


นอกจากนี้ก็ยังมีอินเตอร์เนท รวมถึง Wi-fi ให้ใช้ฟรีระหว่างรอขึ้นเครื่องด้วยค่ะ หมดยุคสำหรับการไปนั่งตบยุงรอเครื่องบินที่เกทแล้วนะคะ ขอบอก


เดี่ยวคำนวณแปบนะคะ  สมมติค่าเครื่องบิน ตีซะสามพัน  กินหนมฟรีก็ปาไป 1500 แล้ว ใช้เน็ทฟรีอีก อูยยย..สาแก่ใจน้องผักอ้วนจริงๆค่ะ สายการบินนี้


อินเตอร์เนทนั่นน้องผักอ้วนก็อยากเล่นอยู่ แต่แฟนบอกว่าอย่าเล่น เดี๋ยว ซิลิโคนน้องผักอ้วนจะไปอุดตันสายLan ของเค้าจะพังเอาได้ ...mad

(โถ ไม่รู้อะไรซะแล้ว ถ้าน้องผักอ้วนจะทำอย่างงั้นจริงๆ ปล่อยซิลิโคนผ่านทางบลูทูธไม่ง่ายกว่าเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า)

เอวัง ..น้องผักอ้วนก็เลยต้องปลีกวิเวกแอบไปหาความสุขให้ตัวเองกับห้องห้องนี้ค่ะ "ห้องเด็กเล่น"



เหมือนจะได้เวลาจรลีแล้วค่ะ


ขอบอกว่าพนักงานในส่วนของห้องรับรองน่ารักมากค่ะยิ้มแย้มแจ่มใสสุดๆ  ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าน้องผักอ้วนปล้นเสบียงในเล้าจน์แทบจะหมดสิ้นแต่ก็ยังยิ้มสู้


smile 

วันนี้เราจะบินไปกับลำนี้ค่ะ  เอาภาพทีเซอร์เรียกน้ำย่อยเป็นเครื่องบินอุปโลกต์ของปลอมชมก่อนนะคะ อิอิ

ผ่าง~

อันนี้ของจริงค่ะ  อลังการกว่าที่คิด ลำใหญ่ ไฉไลกว่าที่คิด




เป็นเครื่องแบบ Airbus 320 ค่ะ  น้องผักอ้วนเป็นผู้หญิงแถวหน้าค่ะ ชอบนั่งหน้าเนื่องจากยืดขายาวๆ เยี่ยงนางแบบได้อย่างสบาย อิอิ




แต่บางทีก็ชักเริ่มอยากเป็นผู้หญิงท้ายแถวดูบ้าง เฉพาะเวลาไปกับแฟน แล้วเจอเพอร์เซอร์หัวหน้าเที่ยวบินเป็นสาวสวย เยี่ยงนี้  


ทำไมน่ะเหรอค่ะ  ก้อๆๆๆ แฟนน้องผักอ้วนอ่ะ ลืมวิวทัศนียภาพจาก window seat เลยน่ะสิคะ  ให้ภาพนี้สื่อคำตอบแทนละกันนะคะ  mad

เนี่ยอาการหวนคืนสู่ธรรมชาติกำเริบตลอดระยะทาง 30000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลเลยค่า งานนี้


อิอิอิ  ล้อเล่นค่ะ ของสวยๆ งามๆ น้องผักอ้วนก็ชอบ smile



ท่านผู้โดยสารคะ ขอเรียนให้ท่านทราบว่าเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินปลอดบุรุษ


อ่านไม่ผิดค่ะปลอดจริงๆ  เพราะขอบอกว่าไฟลท์นี้ไม่มีสจ๊วตค่ะ  (เป็นที่ร่ำลือว่า สายการบินบางกอกแอร์เวยส์มีสจ๊วตหน้าตาดีไม่เป็นรองใครนะคะ) ดังนั้นน้องผักอ้วนขอเรียกไฟลท์ลักษณะนี้ว่าไฟลท์นารีสโมสร  ซึ่งพักหลังเจอบ่อยมากกกค่ะ ผลัดผสม 4x100 หญิงล้วนเนี่ย

ไม่เป้นไรค่ะ สจ๊วตอาหารตา ขาดได้ แต่สิ่งนี้ อาหารปาก ขาดไม่ได้ และสำหรับสายการบินนี้ไม่มีขาดค่ะ  เป็นเบอร์เกอร์ค่ะ  ชิ้นใหญ่โต เล่นเอาผู้หญิง ปากนิดจมูกหน่อยเยี่ยงน้องผักอ้วน ต้องง้างปากกว้างเป็นน้องทรายคุณแม่ขอร้องลืมสวยกันเลยทีเดียว



ชา กาแฟ ไม่อั้นอีกเช่นกันค่ะ  แอบสั่งให้แฟนดื่มแก้วเดียวพอค่ะ กลัวตาแข็ง อิอิ

บินหน้าฝนก็แอบมีสั่นเป็นระยะๆ นะคะ ใครบินไฟลท์เดียวกันก็ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะเสียงร้องโหยหวนห้าวแหบเสน่ห์เยี่ยงชายชาตรีนั่นเป็นของน้องผักอ้วนเองคะ อิอิ แอบตกใจค่ะ เพราะช่วงที่บินอยู่แถวสุราษฎร์ อากาศไม่ค่อยดี สั่นยังกะเครื่องมีองค์

เหมือนว่าเรากำลังจะเหยียบดินแดนไข่มุกอันดามันกันแล้วค่ะ


Landding  อย่างแผ่วเบา  Smooth  As  Cotton


ขอบคุณ น้องกุ้ยหลิน ที่มาส่งน้องผักอ้วนกับแฟนอย่างปลอดภัยนะค๊า

ลืมบอกว่าคนเต็มลำเลยนะคะ ไฟลท์นี้ ลูกเรือเซิ้งกันเป็นระวิงเลยค่ะ  เพราะทราบมาว่าทางPG ได้ทำการโค้ดแชร์กับ EY อ่ะค่ะ


ว่าแต่ใครพอรู้ไหมคะ EY นี่ประเทศอะไร ที่ถามเพราะอยากลองไปเที่ยวดูค่ะ เพราะอารมณ์คงจะประมาณดาราเดินถนนเลยนะคะ   เพราะแบบว่าแอบเห็นผู้โดยสารส่วนใหญ่ของเค้า มองน้องผักอ้วนแบบว่า เอิ่ม .. แถมบางคนสะกิดเพื่อนให้มองน้องผักอ้วนด้วยอ่ะค่ะ  นึกว่าตัวเองเป็นหมีน้อยหลินปิงซะอีก   คนแห่ให้ความสนใจกันมากมายเลย ณ จุดที่รอรับกระเป๋าตรงนั้น




หารถเข้าที่พักก่อนดีกว่าค่ะ สอบถามแท๊กซี่ ได้ความว่าเจ็ดร้อยบาท คุณพระ... ราคานั้นน้องผักอ้วนจะยอมเดินให้เหงื่อออกตามรูขุมขนดีกว่าโลหิตล้นออกจากศรีษะเพราะโดนฟัน ดีกว่า อิอิ

ต้องนี่เลยค่ะ รถตู้ค่ะแบบแชร์คุณค่าที่น้องผักอ้วนคู่ควร wink



น้องผักอ้วกพักที่หาดกะตะ ค่ะ  ที่เลือกเพราะว่าชอบมีคำนำหน้าว่า กะ  ดูเป็นนโยบายสอดคล้องผู้เข้าพัก  kata =kateay อิอิ ล้อเล่นค่ะ ชอบเพราะว่าเงียบสงบ ไม่วุ่นวายเหมือนป่าตอง แต่ก็ไม่เงียบและหาของทานลำบากจนเกินไป



ระยะทางก็ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงเศษจากสนามบินค่ะ


วันนี้น้องพักอ้วนใช้ที่นี่เป็นที่กบดานตลอดช่วงเวลา 2 วันที่พำนักอยู่ที่ภูเก็ตค่ะ


เนื่องจากโรงแรมอยู่บนเขาสูงต้องใช้รถกอล์ฟในการเดินทางขึ้นห้องนะคะ เดินไม่ได้แน่นอนค่ะ ณ เวลานั้น  น้องผักอ้วนมั่น..

เหยียบให้มิดเลยเลยลูกเพ่  น้องผักอ้วนกะเทยไทยหัวใจสก๊อยชอบม๊ากก ถูกใจให้กิ๊บไปเลยสำหรับโรงแรมExtreme สวยปนเสี่ยงแบบนี้ อิอิ




ดูวิวข้างล่างสิคะ ยิ่งสูงยิ่งสาวค่ะ   จะไม่สาวได้ไงคะ พอรถเลี้ยวที น้องผักอ้วนก็ร้อง แอร๊ยยยย ที เลี้ยวอีกที ก็ แอร๊ยยย อีกที

นั่งลุ้นตัวเกร็งอะดรีนาลีนพุ่งพล่านเป็นระยะ  ก็มาถึงห้องพักของเราแล้วค่ะ

เนื่องจากเป็นห้องแบบ pool access ตรงส่วนวิวจากตรงระเบียง จึงถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี


รักคุณ  พี่ข้าวเสาไห้  ช่วงเย็นรีวิวจะเริ่มดีเลย์นิดนึงค่ะ เนื่องจากต้องละหน้าที่นักรีวิวสาว ไปหุงข้าวบ้าง เตรียมอาหารบ้าง รีวิวพลีชีพค่ะ ไม่เสร็จหนูจะไม่ยอมนอนค่ะ สู้ๆๆ

และห้องน้ำที่ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับคู่ตุนาหงันเท่านั้น  ไม่เหมาะสำหรับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดแต่อย่างใด เพราะช่องไฟความห่างระหว่างมู่ลี่ อาจก่อเกิดความชิงชังในหมู่เพื่อนฝูงได้


นิดนึงนะคะ   วิวจากฝั่งตรงข้ามที่มองมายังห้องของน้องผักอ้วน  อิอิ

มองทางซ้าย คล้ายกินรีกำลังเล่นสระอโนดาด  มองทางขวาคล้ายลิตเติ้ลเมอเมดเริงร่า  แต่มองข้างหน้า อุย...
พ่นน้ำหมาก


ไปเดินเล่นชมพระอาทิตย์ลับฟ้า ณ หาดกะตะ  ยามเย็นกันดีกว่าค่ะ

อ่าวใครมีไม้ ยืมมาเขี่ยเจ้คนนี้เล่นหน่อยค่ะ  อิอิ

ศรัทธาคนปั้นมากกกก

ภาพนี้ขอตั้งชื่อว่า  "เขาคิดว่าเขาสวย" 55555

ต้องการสื่อให้ดูแบบอารมณ์เหงาๆ ชิวๆ ค่ะ  กลับมาเปิดดูรูปตัวเองถึงกับผงะ เพราะเหมือนพวกผู้ชายผมยาวนักร้องเพื่อชีวิตมากก ท่ายืนแมนได้อีกกก..


ตัดภาพมาที่ตอนเช้า หลังจากที่ได้รับสิทธิห้องพักเพิ่มอีกคืนจากเพื่อนBlueplanet ใจดี คุณbeembook ที่มอบให้


หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็เดินทางเข้าตัวเมืองกันค่ะsmile




สนนาราคาเริ่มต้นที่ 30 บาท สมน้ำสมเนื้อค่ะ ไกลพอสมควร...ใช้เวลา ชั่วโมงเศษ  กว่าจะถึงเมือง ซึ่งหัวน้องผักอ้วนโดนลมตี  ส่องกระจกตกใจแทบสิ้นสตินึกว่าตัวเองเป็นนาเนียร์ เฮ้อ


นี่ค่ะพาหนะ  ที่พาเราไป เจิดที่สุด



ถึงในเมืองแล้วค่ะเดินย้อนลงหาของอร่อยทานกันดีกว่า มีคนแนะนำร้านนี้มาค่ะ  เป็นขนมท้องถิ่นของ ภูเก็ต  ขนมอาโป๊ง -"-

อิอิ คนอาร๊าย แปลกอยู่แล้วยังกินขนมชื่อแปลกๆอีก

หน้าตาก็ประมาณนี้  แต่รสชาติประมาทไม่ได้นะคะ  7 อัน 20 รสชาติดีมากเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง ขนมเบื้อง และโตเกียว  อร่อยม๊ากกกก แพลบๆ



ต่อกันด้วยร้านติดๆกันค่ะ ยังคงสถานะเป็นของหวานเหมือนเดิม เพราะว่าเป้นสาวหวาน

เค้าเรียกว่าโอเอ๋วค่ะ เป็นของหวานพื้นเมืองอีกเช่นเดิม ร้านจะอยู่ติดกันเลยเป็นที่นั่งแบบริมถนนเลย ดูบ้านๆ หน่อยๆ แต่อีกร้านฝั่งตรงข้ามจะมีร้านใหญ่ดูไฮโซกว่าหน่อย ซึ่งสอบถามคนแถวนั้นทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกัน ร้านที่ว่าข้างถนนนี่หละค่ะ อร่อยกว่า เริ่ดกว่า



หน้าตามันก็ประมาณนี้ค่ะ  ไม่รู้สินะคะ มันก็คือ น้ำแข็งใส ใส่กล้วย ใส่ถั่วแดง ใส่วุ้น ใส่น้ำแดง แต่ออกมาแล้วมันอร่อยลงตัวจริงๆค่ะ  ไม่เคยทานมาก่อน ชอบค่ะ เก๋ดี


ต่อกันที่ของหนักเลยนะคะ  เห็นบรรยากาศแบบนี้ วงเวียนแบบนี้ โรงแรมเมโทรโพลตรงหน้าแบบนี้จะเป็นที่ไหนไม่ได้ค่ะ


จะเป็นที่ไหนไปซะไมได้ นอกจากหมี่ต้นแพง เอ้ย ต้นโพธิ์ อันเลื่องชื่อลือชา อิอิอิ

ก็อร่อยดีค่ะ  สโลแกนร้านของเค้าคือ  มาภูเก็ตทั้งที ไม่กินหมี่ต้นโพธิ์ได้งัย


ก็เพราะสโลแกนนี้ละมั้งคะที่ทำให้สองคนตายายต้องหอบสังขารจากหาดกะตะเข้าเมืองมา อิอิ เรื่องกินเรื่องใหญ่ค่ะ ศรีทนได้


เตรียมซับน้ำลายกันให้ดีนะคะ  เดี่ยวจะหาว่าน้องผักอ้วนไม่เตือน  เพราจะยั่วกันชุดใหญเลยนะคะ ....


เอ้า!



ได้เวลาอำลาหันหลังให้ธรรมชาติ กลับสู่โลกแห่งความจริงกันแล้วค่ะ (จริงๆก็หันมาตลอดชีวิตแล้วนี่นา...)


ขอบคุณสายการบินดีๆ ที่ช่วยเติมเต็มทริปและความรักให้กับน้องผักอ้วนในทริปนี้ด้วยค่ะ love


การเตรียมตัวก่อนการเดินทางกลับ น้องผักอ้วนแนะนำทริคสำหรับ คนที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการเช็คอิน  ให้ทำWeb-checkin กันมาก่อนเลยค่ะ


ซึ่งในน้องผักอ้วนบินก็ต้องไฟลท์กลับกรุงเทพฯเช้ามาก จึงไม่ลืมที่จะทำด้วยเช่นกัน เพราะต้องเผื่อเวลาบรรจงเขียนคิ้วอีกข้างละครึ่งชั่วโมง เพราะเผื่อวันนี้โชคดีอาจจะเจอสจ๊วตหน้าตาดีได้  (เคยไม่ได้เขียนคิ้วปรากฎว่าเดินผวาทั้งวันกลัวโดนเอาฉมวกแทงไปผัดเผ็ดสุดๆ  เพราะตอนไม่มีคิ้วน้องผักอ้วนจะดูคล้ายปลาไหลมากกก)


และสามารถเลือกที่นั่งได้เลยค่ะ  ทำล่วงหน้าก่อน 24 ชั่วโมงก่อนวันเดินทาง และต้องก่อน 2 ชั่วโมงก่อนเวลาบินค่ะ

smile    แถว 1 ข้าใครอย่าแตะ


วัง!!! มันจะมาโดยไม่รู้ตัว แท๊กซี่ภูเก็ตอยู่รอบๆ ตัวเรา เราไม่มีทางหนีพ้น!!

เนื่องจากเป็นไฟลท์เช้าเพราะต้องกลับมาทำงานต่อเลยต้องยอมกัดฟันจ่ายไปค่ะ เพื่อความสะดวกโยธิน   ต่อรองมาได้ที่ 600 บาท โอเค ๆ พอรับได้

แต่แหม นัดแปดโมงมาแปดโมงสิบห้า เดี่ยวปั๊ดหักค่าเสื่อมเวลาเลย อิอิ

แวะร้านพรทิพย์ซื้อของฝากแม่  ฝากกิ๊ก ตามสไตล์สาวแพทย์(ศยา)
ถึงสนามบินตอน เก้าโมงพอดีเป๊ะ มาสายไปสิบห้านาที แต่ลมส่งท้ายดีมาก มาถึงตรงเวลา แถวบ้านน้องผักอ้วนเรียกขับแบบลืมแก่ ลืมตาย..

ทำเวปเช็คอินมาแล้ว เชิญช่องขวาเลยค่ะ  แนะนำให้ทำนะคะ นี่เป็นไฟลท์เช้าคนเลยไม่เยอะถ้าเป็นไฟลท์บ่ายคนจะเยอะมากค่ะ   น้องผักอ้วนที่ว่ามีความสวยขนาดสิบล้อเห็นยังหักหลบ  เคยพลาดไม่ได้ทำเวปเช็คอินไว้ปรากฎว่าวันนั้นไม่มีใครหลบให้เลยค่ะ ยืนรอจนขาแข็งซะงั้น

ได้เวลาหรรษากับ Complementary อีกแล้วค่ะ


กติกาง่ายๆ คือเพียงแค่มีบอรด์ดิ้งพาสตั๋วโดยสารของสายการบินเท่านั้น


อ่ะนายแบบพรีเซนต์หน่อย อิอิ (สีหน้าดูรู้ว่าโดนบีบบังคับสุดๆ 555)


ห้องรับรองผู้โดยสารของสายการบินสำหรับภายในประเทศจะมีทุกที่นะคะ

น้องผักอ้วนตะลุยมาหมดแล้ว  เรียกว่าไปจังหวัดไหน ก็อิ่มกันจังหวัดนั้นเลยทีเดียว

ที่ภูเก็ตจะเป็นเล้าจน์เล็กๆ หน่อย แต่ของกินไม่เคยขาดนะคะ wink


แต่บริการ และรอยยิ้มที่ได้รับนั้นไม่เล็กนะคะ ขอบอก  smile


ขอเล่านิดนึงว่าเจ้าหน้าที่ท่านนี้จำน้องผักอ้วนได้ เพราะเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาแอบแฟนลงเที่ยวลงภูเก็ตมา เจอหน้าคุณพี่เอ่ยปากทักขึ้นมา  มาบ่อยนะคะเนี่ย  น้องผักอ้วนเกือบเป็นลมคาเล้าจน์ดีว่าแฟนมึนๆ อยู่เลยไม่ได้สอบถามอะไร   โถ...ความหน้าตาดีของน้องผักอ้วนทำให้คนจดจำง่ายเกือบเป็นภัยย้อนมาทำร้ายตัวเอง


ได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้วค่ะ


เคยเห็นกระทู้ใน BP สอบถามประมาณว่าไปภูเก็ตกับ PG ขึ้นเครื่องแบบไหนดีคะ นั่งตรงไหนดี  มาค่ะเขยิบเข้ามาน้องผักอ้วนจะเล่าให้ฟัง


สายการบินบางกอกแอร์เวยส์จะใช้เครื่องบินมาจากกรุงเทพ บินตรง สู่ภูเก็ตด้วยกันทั้งหมด  3 Aircraf ทั้งสิ้นค่ะ

ประกอบด้วย
-Airbus 320 ลำนี้จะเป็นเครื่องที่ลำใหญ่ที่สุดของสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ จำนวนที่นั่งจะเยอะกว่า  เป็นที่นั่งแบบ  3:3 ถ้าต้องการนั่งแบบสบายๆ ก็เลือกแถว  1 และตรงบริเวณ Exit Row ได้เลยค่ะ (แบบเดียวกับที่นั่งในขามา)

-Airbus319  ลำนี้จะเล็กกว่า แบบ 320 ค่ะ  ที่นั่งเป็นแบบ 3:3 เหมือนกันแต่ข้อดีสำหรับเครื่องรุ่นนี้ของบางกอกแอร์เวยส์คือ จะใหม่กว่าค่ะ อายุการใช้งานแต่ละลำไม่กี่ปี ลักษณะภายนอกจะคล้ายๆ กันสังเกตุได้จากสี ที่เป็นลายริบบิ้นสีน้ำเงิน และสีรุ้ง(แบบที่มีชั้นธุรกิจ)พันรอบๆ ตัวเครื่องค่ะ


- Boeing717  ลำนี้จะเป็นเครื่องที่เล็กลงมาหน่อยค่ะ ที่นั่งจะเป็นแบบ 2:3 ค่อนข้างแคบนิดและเก่านิดนึง ค่ะปัจจุบันเหลืออยู่สายการบินพานิชย์ในประเทศไทยก็รู้สึกเหลือของบางกอกแอร์เวยส์เจ้าเดียวนี่แหละค่ะ ที่ยังมีให้นั่งอยู่ ถ้าใครยังไม่เคยนั่งแนะนำให้นั่งซะนะคะ เพราะได้ข่าวมาว่าภายในสิ้นปีก็จะทำการทยอยส่งคืนหมดแล้ว เป็นประสบการณ์ค่ะ


ลำที่จะพากลับในวันนี้เป็น Airbus 319 ค่ะ

นอกจากจะเป็นเครื่องรุ่นใหม่อย่างที่กล่าวไว้แล้ว วันนี้ยังโชคดีแจ๊คพอทแบบดับเบิ้ลโบนัสเจอ ลำใหม่ล่าสุดในตระกูลบางกอกแอร์เวยส์อีกด้วยค่ะ

นี่เลยค่ะ HS-PPA  เธอมีชื่อว่าศรีสัชนาลัยนะคะ


กลิ่นใหม่อบอวนมั่กๆ



ใหม่ได้อีก  เอาใหม่เจริญปุระ กับใหม่สุคนธวา สองคนมัดรวมกันสองคนยังไม่ใหม่เท่านี้เลยเอ้า!

ได้เวลากลับมหานครแล้วค่ะ

ลาก่อนภูเก็ต เจอกันอีกทีเมื่อทรัพย์สินมั่นคง haha


จากภาพจะเห็นว่าท้องฟ้าค่อนข้างสดใส มีเมฆดูงดงาม แต่ขอบอกว่ามันคือภาพหลวงตาทั้งสิ้นค่ะ!!


โอ้โห นึกว่าตัวเองเป็นนางเอกมิวสิค ซ่าส์  สั่นๆ ของ D2B สั่นแบบว่า..ไม่มีอะไรจะมอบ

แต่ก็เชื่อก็ต้องเชือ่นะคะ ว่าทริปนี้น้องผักอ้วนไม่เจอฝนเลยแม้แต่หยดเดียวโดยที่ไม่ต้องพึ่งตะไคร้หรือเครื่องต้มยำอะไรทั้งสิ้น และในวันเดียวกันพอกลับมาถึงกรุงเทพ ฝนก็ตกแบบไม่ลืมหูลืมตาค่ะ ซึ่งช่วงที่สั่นตอน Take  off นั่นแหละค่ะเป็นลางบอกเหตุว่าเมฆเยอะ ยังไงก็ต้องตกแน่ๆ เฮ้อโชคดีจริงๆ

พอหยุดสั่นและเครื่องไต่ระดับได้ที่ก็ได้เวลาอาหารกันแล้วค่ะ เค้าเรียกว่า แร็พค่ะเป็นไก่นะคะ ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย อรอ่ยดี  กินซะเกลี้ยงเลยค่ะ ที่อิ่มมาจากเล้าจน์เจอเครื่องสั่นไปเมื่อกี้ Burn หมดแล้ว อิอิ


นั่งทานไป ชมรายการที่เค้าเปิดให้ดูไป (เป็นละครใบ้นะคะไม่มีเสียง ต้องจิ้นเอาเอง) สนุกดีค่ะ

ปล. ในภาพนี้เป็นการฉายSafety Demo ก่อนขึ้นเครื่องนะคะ
เดี่ยวจะนึกว่าน้องผักอ้วนดูขบวนการเรนเจอร์ห้าสี

ไฟลท์นี้ผู้โดยสารไม่เยอะมาก จึงมีโอกาสใช้ Cabin แอ๊บว่าเป็น Catwalk เดินแบบเฉิดฉายไปรอบๆ ค่ะ  


เจอกับลูกเรือฝ่ายท้าย ซึ่งพบว่าเป็นแบบหญิงคู่ค่ะ  smile  อิอิ


แล้วก็กลับมายืนที่เดิม ที่ที่เคยคุ้นตา ...

Landนิ่ม  Landสบาย  Landได้ดั่งใจ  wink

รับรอยยิ้มหวานๆ ก่อนลงจากเครื่องค่ะ คุณพี่ทางซ้ายน้องผักอ้วนเจอบ่อยมากกกก มากที่สุดในสามโลก  แต่ก็ดีใจทีได้เจอทุกครั้งเพราะคุณพี่ฝากขนมติดมือติดไม้ให้ทุกครั้งที่เจอกันเลย  ขอบคุณนะคะ

อ่อสรุปไฟลท์นี้...นารีสโมสร หวยล๊อคอีกเช่นเคยค่ะ wink


สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณ

ทางktc ที่มอบสิทธิให้น้องผักอ้วนได้มีโอกาสได้ไปทบทวนความทรงจำดีๆ ที่ภูเก็ต

ขอบพระคุณสายการบินบางกอกแอร์เวยส์ทั้งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินและลูกเรือสำหรับสิ่งดีๆ และบริการสุดแสนประทับใจที่มอบให้กันเสมอมา

และที่สำคัญขาดไม่ได้เลยค่ะต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่น้องชาวBlueplanet ที่ติดตามและเข้ามาติชมผลงาน  โดยเฉพาะน้องLeKkAeY ที่อยู่เป็นเพื่อนตลอดตั้งแต่เริ่มทำรีวิว

พบกันใหม่ในรีวิวหน้าสำหรับรีวิวนี้ ขอลากันด้วยภาพนี้ อิอิ

สวัสดีค่ะ  รัก





No comments:

Post a Comment