Pages

Thursday, October 7, 2010

LET'S GO LAMPANG กับ BANGKOK AIRWAYS By น้องผักอ้วน

สวัสดีค่ะ  smile


ถ้าคุณเหงา เราขอผ่อนคลาย  ชมรีวิวบูทิ๊คแบบสบายๆ ไสตล์ น้องผักอ้วน กันนะคะ  การันตรีนะคะว่าชื่อล๊อคอินนี้มีแต่ของอร่อยค่ะ มีเพื่อนสะกิดเพื่อนให้เข้ามาชมด้วยกันนะคะ  อย่ากลัวค่ะ อย่ากลัว ขอรับประกันว่ารีวิวนี้ไม่ส่งผลอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของท่านแน่นอน  เนื่องจากเราสัญญาว่าจะไม่ปล่อยซิลิโคนผ่านระบบสาย Lan  ใส่คอมฯ  ท่านผู้ชมที่น่ารักทุกท่านแน่นอนค่ะ อิอิ

ขอท้าวความรีวิวที่ผ่านมานิดนึง  น้องผักอ้วนได้อวตารร่างเป็นสาวลาวนุ่งซิ่น ห่มสไบ ชวนกันไปม่วนชื่นที่ เมืองหลวงพระบาง มรดกโลกกันมาแล้ว
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8772303/E8772303.html


ในคราวนี้เรายังขอรักษาระดับเส้นทางให้ไม่ฉีกออกไปมากอีกหนึ่งรีวิวนะคะ  ในกฎของชาว บูที้ค  เราเรียกเส้นทางในเชิงท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเหล่านี้ว่า  Exotic Gems  ค่ะ

ซึ่งเป็นเส้นทางบินเปิดใหม่อย่างเต็มตัวในนามของสายการบินบางกอกแอร์เวยส์  นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ

จะเป็นเมืองไหนไปไม่ได้นอกเสียจาก

ถ่านหินลือชา   รถม้าลือลั่น     เครื่องปั้นลือนาม  
งามพระธาตุลืไกล     ฝึกช้างใช้ลือโลก




ใช่แล้วค่ะ  เราจะขอทุกท่าน ท่องเที่ยวไปยัง นครลำปาง  หรือ เมืองไก่ขาว ไปกับเรา    ซึ่งรีวิวนี้ก็ขออนุญาตเกาะกระแสละครดังช่องสามเรื่อง เชลยศักดิ์ ที่กำลังฮิตติดลมบนนิดนึงนะคะ  เพราะเราจะอวตารเป็น  แม่ญิงทางเหนือแบบพองาม  อิอิ

อนึ่ง แอบเห็นกระทู้พาดพิงเบาๆ  จากพี่ One Light One Shadow  ได้กล่าวไว้ว่า
"กดดันๆๆๆ จากการสำรวจ ผู้ที่มีรายชื่อล๊อกอิน ต่อไปนี้ กรุณา ลงรูปที่เห็นใบหน้าที่ชัดเจนด้วยครับ"

และแน่นอนมีชื่อน้องผักอ้วนติดโผ   ตามกุศโลบาย ที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แว๊ปแรกที่ผันตัวเองมาเป็นนักรีวิวสาว  ว่า เราจะเสนอในสิ่งที่คุณปฎิเสธไม่ได้


จัดไปค่ะ อิอิ

หากคุณคิดว่า ทริปนี้น้องผักอ้วนก็ตัดสินใจ ออกตั๋วไปลำปางเชิ่ดๆ  แบบแค่ทัช(www.bangkokair.com)ก็สัมผัสน้องผักอ้วน   เพียงแค่อยากไปเดินสวย เดินเริ่ด ที่ลำปางไปวันๆ คุณคิดผิดค่ะ  


เพราะว่าทริปนี้ดาวบาปเคราะห์ดวงใหญ่พุ่งชนดาวแพนโดร่า ...น้องผักอ้วนกะเทยไทยหัวใจฟ้าอีกแล้วค่ะคุณ    เรียกว่าเกือบจะได้ไป หล่มสัก (ภาษาเพศสร้างสรรค์ แปลว่า ทริปล่ม) แทนแล้วค่ะ  เนื่องจากมีโจทก์ให้เรามาขบคิดมากมายดังนี้ค่ะ


คือน้องผักอ้วนและครอบครัว ได้จองตั๋วของสายการบินJet Starเพื่อไปเที่ยวสิงค์โปร์กันแบบเซ็ทใหญ่ฟูลคอร์ส คือไปกันทั้งครอบครัวค่ะ ไปกันหมดทั้งบ้าน นับว่าเป็นครั้งแรกเลย   เรียกว่าตื่นเต้นกันมากและทำการบ้าน จองที่พัก วางแพลนกันเป็นอย่างดีงาม

แต่ปรากฎว่าเราได้รับข่าวแว่วๆ มาจากวงในว่าสายการบินจานแม่ ความประทับใจแห่งเอเชีย  จะเปิดเส้นทางบินลำปาง ในวันที่ 1 กพ. ค่ะ...


บิงโก!!   ครอบครัวน้องผักอ้วนจองตั๋วกันไว้ว่า ไป 30 มค  กลับวันที่ 1 กพ  ค่ะ และแน่นอนกลับไฟลท์บ่ายๆ แต่เที่ยวบินลำปางไฟลท์ปฐมฤกษ์นั้น บินกันแบบนกสะดุ้ง Early bird   6.40 นะคะ

อุ่ย  เอาล่ะสิ   งานเข้า แล้วก็  เป็นงานใหญ่อีกตะหาก  งานนี้บอกได้เลยว่า  ตัวเองค้นพบเพศทางเลือกมาก็จวบจนบัดนี้อายุปาเข้าไปยี่สิบตอนต้น (รอยย่นยังไม่มี)   ยังไม่หนักใจกับการเลือกครั้งนี้ ระหว่าง ครอบครัวที่เคารพ   กับ  สายการบินอันเป็นที่รัก  


ไปนอนก่ายหน้าผาก ตีลังกา  ราวดอล์ฟ อีกสามรอบครึ่ง  ก็ค้นพบคำตอบที่ให้กับครอบครัวที่บ้านว่า .. คุณแม่ขา... นู๋ขาลาเมอไลอ้อน  ไปร่อนรถม้านะค๊ะ "


และนับว่าเป็นโชคดีที่มีครอบครัวน่ารักและเข้าใจมาตลอด

หากคุณอยากรู้จักตัวตนในนามของแฟนพันธุ์แท้สายการบินBangkok airways ของน้องผักอ้วนแนะนำให้เข้าไปศึกษาที่รีวิวนี้ มันบอกถึงความเป็นน้องผักอ้วนมากที่สุดแล้วค่ะ

http://hflight.net/forum/m-1262851323/s-286/


แต่ก็ทำหน้าที่ลูกสาวที่ดี อาสาไปส่งครอบครัว  ณ  วันเดินทางไปสิงค์โปร์นะคะ    ขอคาดตานิดนึงนะคะ อิอิ   ตัวน้องผักอ้วนอ่ะ Don't Care Advertising (ไม่แคร์สื่อ) แต่ครอบครัวน้องอ่ะเค้าแคร์ อิอิ



หลังจากส่งครอบครัวสุขสันต์เดินทางไปไปเมืองลอดช่องอย่างปลอดภัยแล้ว  คราวนี้ก็ถึงเวลาของ  น้องผักอ้วนนักรีวิวสาว   สู่เมืองหนาวมาก (ช่วงไหนไม่ทราบคะพี่โน้ต อุดม ซิลิโคนเดี้ยนแทบระเหิดเป็นไอแล้วกลั่นมาเป็นฝนตกใส่ชาวลำปาง!)

เป็นไฟลท์ที่มีความลำบากต่อความงามนิดนึงนะคะ เครื่องออก หกโมงสี่สิบ  ต้องถึงสนามบินตอนหกโมง  และแน่นอนว่า  ชีวิตนี้ไม่อะไรอาภัพเท่ากับการตื่นมาเขียนคิ้วตอนตีสี่ และติดขนตาปลอมตอนตีห้าอีกแล้ว  รวมถึงร้านเสริมสวยที่ยังไม่เปิดสักร้าน ต้องสต๊าฟทรงผมเอาไว้ตั้งแต่หัวค่ำ  นอนก็ต้องห้ามพลิกตัว  กลัวผมเสียทรง  ตื่นมาปวดคอไปหมด -"-

อ่อ ลืมบอกว่าน้องผักอ้วน คือผู้โดยสารคนแรก ที่ออกตั๋ว เส้นทาง กรุงเทพ -ลำปางเลยนะคะ  แต่!!  ณ วันนั้น น้องผักอ้วน คือผู้โดยสารที่เช็คอินคนสุดท้ายค่ะ  ขอสารภาพว่า  ตอนอยู่บนTaxi  จนท ถึงกับโทรมาหาเลยทีเดียว กลัวว่าเราจะตกเครื่อง  แต่ก็ผ่านพ้นมาด้วยดีนะคะ ถึงแม้เราจะพบว่าตอนลากกระเป๋าออกจากบ้าน   ช่วงเช้ามืด  หมาในซอยเห็นน้องผักอ้วน จะพากันเห่า กึ่ง หอนกันเกรียว รวมถึงทำพระที่บิณฑบาตรชะงักไปหลายองค์    

วันนั้นเลยไม่ได้ใช้บริการ ห้องรับรอง ที่มีขนมและเครื่องดื่มจัดเตรียมให้รับประทานฟรีก่อนขึ้นเครื่องนะคะ ใครไปใช้บริการอย่าลืมแวะนะคะ  กินกันจนอิ่มอ้วนตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องค่ะสำหรับสายการบินนี้

น้องผักอ้วนเดินมาถึงเกท  ปากแห้งเลยค่ะ หิว แต่จับต้องไม่ได้ หันไปมองเล้าจน์ตาปริบๆ ด้วยใจอาวรณ์  เฮ้อ..ดราม่าสุดๆ ณ จุดๆนั้น

นี่คือ Boarding pass นะคะ มีสองใบ  เนื่องจากต้องเสียวสองรอบอย่างที่บอกคือ บินสองตุ๊บค่ะ  แบ่งเป็น ใบแรก  กรุงเทพ -สุโขทัย   ใบที่ สอง สุโขทัย- ลำปาง  ค่ะ


ถูกใจน้องผักอ้วนมาก เพราะน้องผักอ้วนเป็นสาวล่าแต้ม (สะสม Bording pass ค่ะ อิอิ)

และนี่คือ ยานแม่  ที่จะนำพาเราไปเมืองลำปาง และ สุโขทัย  ไฮโซนะคะ บินแบบ Two way นะ

ซึ่งมีชื่อว่า น้องเต่า นะคะ ลำนี้ เห็นไหมคะ เค้าไม่ใช่ซุ่มสี่ซุมห้า เอาลำนั้นนี้มาบินนะคะ ต้องดูฮวงจุ้ยด้วย เนื่องจากเปิดเส้นทางบินใหม่ ต้องเอาน้องเต่ามาบินเอาฤกษ์ค่ะ  จะได้อยู่ยั้งยืนยงหมือนอายุเต่า  เป็นตัวเลือกให้ชาวลำปาง ไปอีกตราบนานเท่านาน  และที่สำคัญ น้องผักอ้วนเจิมกับมือ ไม่ต้องกลัว  บินกันตราบชั่วลูกหลาน กาลปาวสาน แน่นอน เจนนี่มั่นใจ wink

ตอนนี้เรามาอยู่บนเครื่องแล้วค่ะ    อ่อ  ลืมโชว์ของที่ระลึกนะคะ สำหรับไฟลท์ปฐมฤกษ์ เป็น ถุงผ้าลดโลกร้อน  ลวดลายน่ารัก น่าใช้มาก


แต่น้องผักอ้วนว่า วิธีลดโลกร้อนที่สุดนั่นก็คือ  การจำกัดปริมาณประชากรมนุษย์โดยการหันมาบริโภค...  ไม่พูดดีกว่า เขิน อิอิ
(หันไปมองสามีที่บ้านอย่างภาคภูมิใจ)


เอาล่ะค่ะ ถึงเวลาที่เราจะกลายเป็นผู้หญิงชั้นสูง แล้ว  เหยียบให้มิดค่ะพี่กัปตัน!! (เหยียบคันเร่งนะคะ ไม่ใช่เหยียบหนู)  สดชื่นดีเหมือนกันนะคะ นานๆ ได้บินไฟลท์เช้า(เว่อร์)  อารมณ์เหมือนกับตอนเด็กๆ ตื่นมานั่งรอดูเจ้าขุนทอง ที่ช่องเจ็ด ก่อนไปโรงเรียน


ระหว่างบินไม่รู้จะทำอะไร อ้างว้างมาก ไปคนเดียว เลยยิงชัตเตอร์ใส่ตัวเอง เมื่อเห็นภาพก็เกิดนิมิตร มุขนี้ ขึ้นมาทันทีค่ะ

ภาพนี้ค่ะ    ไม่มีนิยามอะไรมากมาย  สั้นๆ  ง่ายๆ

"กุหลาบเหนือเมฆ"  จบ!  

(ใส่ชุดลายกุหลาบนะ  อิอิ)


ได้เวลา Happy meal ค่ะ   ณ จุดจุดนั้นหิวมาก!!


นึกว่าตัวเองเป็นกะเทยชาวเฮติ  เห็นอาหารแล้วมือสั่น เนื่องจากมาสายเข้าเล้าจน์ไม่ทัน  งั้นขออนุญาตถ่ายกันแบบเชิ่ดๆเริ่ดๆ  หลังจากถ่ายเสร็จ ไม่รู้ตัวเลย  เหมือนมีวิญญานผู้ชายเข้าร่างค่ะ กินซะ แบบว่าไม่คิดชีวิต



เพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลก (หมากคำใหญ่นิดนึง)  เครื่องบินแบบ ATR ลำน้อยก็ได้บินแบบหงส์เหินมาถึงสุโขทัยแล้วค่ะ คือ บินชิวๆ สบายๆ  บินต่ำ สามารถมองเห็นวิวชัดกว่า เครื่องแบบJet อันนั้น เหมาะสำหรับ คนชอบบินแบบนกไฟฟีนิกส์ ไวๆ ไม่เวิ่นเว้อ...  

แต่ขอกระซิบว่า เครื่องแบบใบพัด ATR72 ที่ใช้อยู่นี่มีความปลอดภัยสูงมากที่สุดในบรรดาเครื่องบินหลายๆรุ่นนะคะ เพราะสามารถลงจอดได้ง่ายกว่าเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน


นี่นะคะ Bird eyes view เมืองสุโขทัย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว   เขียวชะอุ่มได้ใจจริงๆ

พลุ Welcome To Sukhothai Airport พลุ


ทริคเล็กๆนะคะ  ตอนแลนด์ดิ้ง ถ้าใครอยากเห็นฝูงน้องควายเผือก มายืนต้อนรับนะคะ ให้นั่งฝั่งขวาของเครื่องนะคะ แถว CD อ่ะค่ะ


สำหรับผู้โดยสารสุโขทัยลงเครื่องไปรอรับกระเป๋าที่สายพานได้เลยค่ะ แต่ในส่วนของผู้โดยสารที่จะต่อไปลำปางยังไม่หมดกรรมค่ะ แต่ก็ต้องลงเช่นเดียวกันพร้อมกับรับ Transit Card ด้วยนะคะ  ลูกเรือแนะนำว่า ข้าวของต่างๆ ที่นำขึ้นเครื่องไปด้วย ก็ต้องเอาลงมาให้หมดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้โดยสารเอง  ส่วนกระเป๋าที่โหลดไม่ต้องรับค่ะ ไปรอที่ลำปางได้เลย


อีกหนึ่งมุมเก๋ๆ สำหรับท่านที่ได้มีโอกาสมาสนามบินสุโขทัย  ต้องถ่ายเก็บเอาไว้นะคะ   งามแงะจริงๆ  ค่ะ ขอบอก

เนื่องจากไฟลท์นี้เป็นปฐมฤกษ์ จึงมีผู้โดยสาร VIP  ร่วมมากับเราหลายท่าน แต่ว่าคดีพลิกค่ะ  ท่านๆเหล่านี้พากันลง สุโขทัยกันหมดเนื่องจากต้องไปเปิดงาน “ตามรอย 9 พระพุทธสุดแผ่นดิน”   เป็นทัวร์ไหว้พระ 9 สถานที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัย-แพร่ ค่ะ   ซึ่งทางบางกอกแอร์เวยส์ เชิญสื่อมวลชนมามากมายเลยค่ะ วันนั้น


น้องผักอ้วนเลยใช้คำว่าไม่แคร์สื่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำหน่อย อิอิ


นี่เลยค่ะ ได้ประกบคนดัง รวมถึง (ตัวแม่)ชาวPG หลายท่านกันเลยทีเดียว  



ถ่ายเสร็จแล้วค่ะ  ทำไงดีคะ   อ่อ วิ่งซิคะ วิ่งไม่คิดชีวิต เพราะเรามีเวลาแค่ ไม่ถึง 10 นาทีสำหรับการพักเครื่องที่สุโขทัย


น้องผักอ้วนก็ Run สุดฤทธิ์ค่ะ วิ่งจากอาคารขาออกมายังอาคารขาเข้าค่ะ  แหมถ้ามีเวลาเยอะนิดนึงนะคะ จะแวะกินก๋วยเตี๋ยวลานบินค่ะ อยู่ใกล้ๆอาคารขาออกนะคะ ใครไปขออนุญาตบังคับนะคะว่า"ต้องกิน" เพราะมันเอร็ดมากกกกกกกกกกกกกก...







เนื่องจากว่าผู้โดยสารลงที่สุโขทัยกันเยอะมาก จึงต้องมีการเปลี่ยนถ่ายเทที่นั่งเพื่อให้เกิดความบัลล๊านซ์ของเครื่องค่ะ น้องผักอ้วนจึงต้องผลัดถิ่นจาก 1 A เขถิบมาอยู่  8A ซึ่งตอนจนท .มาแจ้งก็ระบุไปว่าขอริมหน้าต่างนะคะ หนูจะถ่ายรูปวิวแบบแหล่มๆ    แต่อืม ..เค้าก็จัดให้น้องผักอ้วนนั่งริมหน้าต่างจริงๆ นะไปว่าเค้าไมได้ค่ะ


ขอบคุณค่ะ   -_-"


เอวัง





รับของว่างอีกหนึ่งอย่างค่ะสำหรับเส้นทางนี้ เป็นไงคะ คุ้มยิ่งกว่าแฟลทปลาทองนะคะ ดิฉันบอกแล้ว  อร่อยมากค่ะ  มันเป็นขนมชิดไหนก็ iden ให้ไม่ถูกเหมือนกัน แต่อร่อยไม่แพ้โยเกิตเทพ เมื่อเช้านี่นะคะ


ส่วนน้ำมีแจกกันแบบหนึ่งอิ่มค่ะ ใครไม่อิ่มน้องผักอ้วนจะให้ไปขอน้ำมหาบำบัด ป้าเช็ง มาดื่มแทน  อิอิ   ล้อเล่นค่ะ





อนลงเครื่อง ตามธรรมเนียมค่ะ  รับรอยยิ้มหวานๆ จากลูกเรือ  


แต่!! ท่านผู้ชมส่ง SMS มาบอกดิฉันที พิมV1 V2  V3  แล้วส่งมาที่ ..... อิอิอิอิ


หากมองแบบผิวเผลิน  นี่คือ คือภาพสามสาว แต่มองให้ดีแล้วคุณจะพบว่า เป็นภาพ สองหญิง หนึ่งชาย 




ถึงแล้วเจ้า....


ถึงสนามบินก็มีบรรดา  สารถี จะอาสาแย่งตัวไปส่งกันให้ควั่กค่ะ คนสวยก็งี้ นะคะ   หนุ่มๆทักกันเกรียวเลย  แต่ทักว่า  ไปส่งมั๊ยร้อยนึงบ้าง  แปดสิบบ้าง อิอิอิอิ


ไปสะดุดอยู่กับคุณลุงท่านนึงค่ะ เลยเลือกที่อุดหนุนแกให้พาเข้าโรงแรมรวมถึงติดต่อเหมาเที่ยวเป็นเวลา 1 วัน ด้านลุงพอรู้ว่าเราคือแฟนพันธุแท้ มาบินเพื่อปฐมไฟลท์ และตั้งใจมาทำรีวิวเส้นทางลำปาง ก็ยินดีอาสาเป็นไกด์ให้ด้วยไปในตัว น่ารักมากเลยค่ะ  คุณลุงแกบอกว่า  ผมบริการคุณดีๆ คุณเอาไปเขียนรีวิว คนก็อยากมาเที่ยวลำปาง เศรษฐกิจก็จะได้ดี ผมก็จะได้มีกิน คำพูดนี้เล่นเอาดิฉันดราม่า และบอกกับคุณลุงว่า "งั้นจัดไปเลยค่ะ วันนี้พาหนูไปให้ครบ เอาให้หมด อะไรที่ดูเป็นลำป๊าง ลำปาง จัดมาค่ะ  หนูเกิดที่กระทุ่มแบน  ตกฟากตอนทุ่มตรง ฉะนั้น  หนูทุ่มไม่อั้นค่ะ!!"



แต่ก่อนอื่นรบกวนคุณลุงช่วยหนู Avatar สารร่าง ให้กลายเป็นเจ้าหญิงแสนฝางทีได้ไหมคะ  เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเขลางค์นคร  หนูDon't care Advertisngค่ะ!!

ซึ่งคุณลุงแก ดูเหมือนจะชอบดื่มเป๊บซี่ค่ะ เพราะเต็มที่กับชีวิตมาก พาขับรถวนหาร้านทำผมให้ตั้งหลายร้านกว่าจะเจอร้านที่แบบทำได้เลยไม่ต้องรอ

ซึ่งเราก็มีวิธีจำแลงแปลงกาย แบบ shot ต่อ shot มาฝากกันด้วยค่ะ อิอิ

โอม..เพี้ยง~




เป็นอันเสร็จพิธี   ที่แรกที่เราจะไปสร้างความตกตะลึงให้กับนักท่องเที่ยวและชาวลำปางคือที่นี่ค่ะ Unseen  in Thailand

วัดพระธาตุลำปางหลวงค่ะ




เพียงแค่เห็นประตูเข้าก็บอกกับตัวเองเลย ว่า "คุ้มแล้ว" สำหรับทริปนี้ที่ได้มาที่นี่



เป็นวัดประจำที่มีพระธาตุประจำปีสำหรับ่ท่านที่เกิดปีฉลูด้วยนะคะ อย่าลืมมาไหว้นะคะ  และจะให้เก๋ต้องนั่ง บูที้คแอร์มาไหว้ด้วยนะคะ




ที่นี่จะมีจุดให้เราอธิษฐานในเรื่องเสี่ยงทายด้วยค่ะ ประกอบด้วยการยกช้างด้วยนิ้วก้อยเหมือนพี่ในรูปทำแต่น้องผักอ้วนไม่ได้ทำค่ะ  ไม่ใช่เพราะกลัวเล็บที่ทำมา 280 พินาศหรอกค่ะ  แต่กลัวยกไม่ขึ้น แล้วเก็บมานอยด์อ่ะค่ะ เลยเน้นไปที่นมัสการพระธาตุแทน



นี่อ่ะ แต่น้องผักอ้วนทำอันนี้อ่ะ  ไม้วาเสี่ยงโชค คุณลุงเป้นคนสอนให้ทำ ซึ่งผลออกมาปรากฎว่านิ้วน้องผักอ้วนยาวเลยออกมาเกือบหนี่งองคุลี ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจะมีโชค   แต่คิดว่ายังไม่ใช่ในวันนั้นเลย เพราะ ภายในช่วงบ่ายเดียวกันของวันนั้น วันที่ 1 กพ . น้องผักอ้วนซื้อล๊อตตารี่ หลังจากใช้ไม้เสี่ยงทาย ผลคือกินเรียบ  อิอิ




ส่วนตอนนี้เรามาร่วมไหว้พระขอพรด้วยกันก่อนนะคะ


ไหว้เสร็จก็อย่าลืมไปเดินวนรอบพระธาตุนะคะ  เพื่อความเป็นศิริมงคล




อ่อลืมบอกค่ะหากใครไปช่วงนี้ องค์พระธาตุกำลังบูรณะ อยู่นะคะ





เสร็จแล้วก็ถึงเวลา Unseen กันอย่างที่บอกค่ะ  กำลังจะเดินไปก็ชะงักทันที่ที่เห็นป้ายนี้




ยืนเลิกลั่กๆอยู่สักพักก็มี จนท.ทางวัด เข้ามาบอกว่า ไม่เป็นไร  ข้างในโบสถ์ยังมีอีกจุดที่ผู้หญิงเข้าได้และมองเห็น


โธ่ ...ถัง ขอบคุณค่ะพี่  งานนี้เล่นเอาเห็นข้อด้อยของการเป็นผู้หญิงข้ามเพศไปแล้วหนึ่งจุดเบาๆ


นี่เลยค่ะ เงาพระธาตุกลับหัวของจริงเสียงจริง  เห็นครั้งแรกขนลุกเลยอ่ะ แปลกจังค่ะ




ทางวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเกิดจากการหักเหของแสงต่างๆ ที่ผ่านรอดมายังช่องนี้ ...อะไรสักอย่างนะคะ น้องผักอ้วนฟังเค้าอธิบายมา ก็แอบลืมๆ ไปบ้าง  แต่สำหรับน้องผักอ้วนคิดว่า การที่คุณได้มาเห็นสิ่งนี้และได้มาสักการะสักครั้งในชีวิต ถือว่าจะวิเศษกับตัวเองมากค่ะ




ในวัดจะมีจุดไฮไลท์อีกจุดหนึ่งที่คุณลุงพาเราไปดู  คือตรงบริเวณต้นโพธิ์จะมีไม้ค้ำเอาไว้มากมาย  คุณลุงได้อธิบายว่า  เป็นความเชื่อของคนทางเหนือค่ะ  ทุกสงการนต์ ทุกครอบครัวจะนำไม้มาค้ำเอาไว้เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ครอบครัวของตนเองค่ะ





อย่างที่บอกค่ะมาวัดนี้วัดเดียวก็ถือว่าคุ้มและมาถึงลำปางเต็มตัวแล้วเพราะมี องค์พระต่างๆให้เราไหว้มากมาย รวมถึงที่นี่ด้วยค่ะ พระแก้วมรกต ..



นี่คือโฉมหน้าของคุณลุงที่อาสาพาเที่ยวและขับรถให้ในวันนี้ค่ะ น่ารักมาก คุณลุงโชว์ความสามารถพิเศษให้ดู คือเพียงแค่เอามือลูบฆ้องในภาพแล้วปรากฎว่ามีเสียงกังวาลออกมาค่ะ  งานนี้น้องผักอ้วนลองทำดูปรากฎว่าไม่มีเสียงอะไรออกมาสักแอะ  ...ก็แปลกดีนะคะ





เสร็จจากวัดพระธาตุก็ตั้งใจจะไปหาข้าวเที่ยวทานกัน

ซึ่งระหว่างทางผ่านตรงนี้ค่ะ  อยู่กลางสี่แยก   อย่าลืมเก็บภาพไว้นะคะ หลักกิโลเมตรยักษ์ค่ะ ใหญ่ไปไหนก็ไม่รู้นะคะ




แต่ก่อนอื่น ต้องแวะที่นี่กันก่อนค่ะ  วัดศรีชุม




คุณลุงเล่าว่า คนท้องที่บางคนเค้าเรียกกันว่า วัดพม่า

จากที่ดูด้วยตาปล่าว  คิดว่าเป็นวัดที่มีกลิ่นอายความเป็นพม่าสูงอยู่ค่ะ  คล้ายๆ กับวัดทางแม่ฮ่องสอนยังไงอย่างงั้น   มาเห็นแล้วอยากไปย่างกุ้งไวๆ  มีโปรแกรมเดือน พค . ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคงได้เห็นน้องผักอ้วน ทาแป้งทานาคา เขียนตาคมๆ ไปไหว้พระเจดีย์ชเวดากองกันนะคะ




ภายในวิหารจะมีพิพิธภัณฑ์ภาพเก่าตั้งอยู่ค่ะ จะมีภาพเก่าๆหาชมยาก ทั้งประวัติของเมืองลำปาง วัดศรีชุม รวมถึงสะพานรัษฎา ทีอยู่คู่เมืองลำปางมานานแสนนานค่ะ




และนี่คือโฉมหน้าของสะพานที่ว่าค่ะ   จะให้เก๋ต้องไปยืนโพสท่าถ่ายรูปสวยๆนะคะ ช่วงเย็นๆพระอาทิตย์จะสวยมากกกกกกก




พาลูกชายไปด้วยค่ะ

เอ้า ! ตอนข้ามสะพาน กลั้นหายใจ(แบบความเชื่อเรือ่งสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง)แล้วอธิษฐานว่าาชาติหน้าให้กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ อิอิ




คุณลุงพามาทานเที่ยงกันที่ร้านนี้ค่ะ คุณลุงบอกว่าอร่อยไม่อร่อยให้ดูจากจำนวนคนที่มาทานเอาเอง อ่ะค่ะ คุณลุงคะหนูยอมค่ะ แต่ตอนนี้หนูหิวมาก จะกินฝูงรถม้าได้ทั้งโขลงแล้วค่ะ




และนี่คือข้าวซอย ขนาดจามใส่หนึ่งทีหมด  รสชาติ  เอาไปสิบกะโหลกเลย   เริ่ดเลอแค่ไหน บอกได้แค่ว่า คุณลุงกินชามเดียว แต่น้องผักอ้วน กินเยี่ยงชายด้วยเรือนกายแห่งหญิง ล่อไปซะสองชามเบาๆ  

ซดอย่างเมามันส์รู้ตัวอีกที หันไปมองคุณลุงแกนั่งมองน้องผักอ้วน อ้าปากค้างประหนึ่งเห็นผี อิอิ





แหม คุณลุงไม่รู้อะไร ชื่อที่ว่า น้องผักอ้วนเนี่ย ไม่ได้ตั้งเองนะ แฟนตั้งให้แปลว่ามันก็ต้องมีsomething แฝงอยู่นะคะ  ถ้าเป็นคนกินน้อยต่อยหนัก คงไม่กล้าใช้คำว่าอ้วนแปะหราอยู่กลางชื่อ อิอิ


ยังค่ะยังไม่พอ อีกเมนูที่ขอบอกว่า น้องพลับต้องขอสอง คือนี่คือสะเต๊ะ มีทั้งไก่และเนื้อ ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มค่ะ โอว์... นึกแล้วอยากมีประตูวิเศษโดเรม่อนเปิดประตูไปร้านที่ว่านี่อีกสักครั้งจังค่ะ




ระหว่างทานๆอยู่เห็นกำแพงร้านเค้าโล่งๆ จึงบอกคุณลุงว่า คุณลุงคะหนูเห็นสติกเกอร์เก๋ๆ ในรถ รบกวนคุณลุงขอเจ้าของร้านแล้วช่วยเอามาติดทีได้ไหมคะ


คุณลุง ใช่ว่าจะกลัว  รีบไปหยิบแล้วมาแปะ ทันใด

การเป็นกะเทยถ่ายทอดทางอากาศไม่ได้ฉันท์ใด แต่ สายเลือดบูติคเข้มข้น สามารถถ่ายทอดได้อย่างสบายฉันท์นั้น อิอิอิอิ


โดฟชนะเลิศ...




ของฝากหน้าร้าน อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก  แนะนำให้ซื้อ ซื้อไปแล้วไม่ชอบ ยินดีให้เอามาปาหน้าบ้านได้เลย   (อินเทรนด์กับข่าวสารการเมืองช่วงนี้นิดนึง อิอิอิอิ)




หลังจากอิ่มหมีพลีมันกันไปแล้ว ก็คึกสิคะทีนี้  วัดที่สามที่เราจะพาไปในวันนี้คือ  วัดปงสนุก  ค่ะ





ชือ่วัดปงสนุกแต่มาแล้วใช่ว่าจะสนุกนะคะ เพราะเราจะเกิดความรู้สึกนี้ค่ะ  ทึ่ง ค่ะ ทึ่งในสถาปัตยกรรมที่งดงาม บอกตรงๆนะคะ รู้สึกแปลกมากเพราะช่วงที่ไปนั้นอากาศร้อนมากแต่พอมาถึงวัดนี้ มีลมเย็นพัดมาสัมผัสกายตลอดเลยจนไม่รู้สึกร้อนเลยค่ะ





ข้างบนโบสถ์จะมีพระนอนองค์ใหญ่ค่ะ   หน้าท่านใจดี๊ ใจดีนะ น้องผักอ้วนไปยืนมองท่านตั้งนาน มีความสุขจัง




แต่ไฮไลท์ของวัดปงสนุกที่คุณเห็นแล้วต้อง ทึ่งยิ่งกว่า  อยู่ที่ตรงภายใต้วิหารในภาพค่ะ ตามเข้ามาค่ะ




ภายใต้ร่มกาสาวพัตร คุณจะพบกับพระพุทธรูปสีทองงามสง่า ตั้งอยู่ด้วยกันสี่องค์




แต่หากคุณเงยศรีษะมองไปยังๆ รอบๆ ภายใต้หลังคาให้ถ้วนถี่  ดิฉันมั่นใจว่าคุณจะต้องร้องว๊าว ออกมาเหมือนกับให้กับสิ่งที่คุณเห็นตรงหน้าๆ เหมือนกับที่ดิฉันได้ร้องออกมา ณ  จุดนั้น




เพราะสิ่งที่ปรากฎตรงหน้าคือพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ที่ประดิษฐานอยู่ร้อยๆองค์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ  วัดเมืองไทยเรานี่แหละ สวยที่สุดแล้ว ดิฉันว่า




แม้แต่ UNECO ยังต้องมาขอบันทึกไว้  แล้วคุณล่ะค่ะ   จะช้าอยู่ทำไม? ยกหูโทรหาเราสิคะ อิอิอิ  คอลเซนเตอร์บางกอกแอร์เวยส์อ่ะค่ะ ช่วยคุณได้ ...อย่าได้รอ  (ไม่รับบอกเบอร์ผ่านหลังmic นะคะ ไปหาเอาเอง  กลัวเงาหัวอมยิ้มเลือนลาง >_<)




แต่ถ้าหนุ่มๆ ในBP จะโทรหาดิฉัน  ...  //ตบเข่า //พยักหน้า


โอเคนะคะ รู้เรื่อง!!!





อิ่ม ข้าว(ซอย) แต่ยังไม่อิ่มบุญ  หันไปทำเสียงใหญ่ใส่คุณลุง "ลุงครับ จัดให้ผมอีกวัดนะ"

ซึ่งคุณลุงแกก็ กะพริบตาข้างเดียว พร้อมกับทำมือโอเค  แบบออกสาวสุดๆ  เป็นการตอบรับว่ารู้เรื่อง

ดูเหมือนว่าอากาศบนรถจะหมุนเวียนไม่ดีพอ เลยทำให้เราสองคนค่อนข้างสับสน


อิอิอิอิอิ   ล้อเล่นค่ะ  สแปนหน้าสวยขนาดนี้ ไม่พูดครับให้ระคายเคืองปากหรอก  ด้านคุณลุงเองก็จัดทริปให้แบบ บิวตี้บุฟเฟ่ต์ สวยอร่อยเลยค่ะวันนั้น  อิ่มบุญสุดๆๆๆเลยค่ะ


วัดต่อไปคือที่นี่ค่ะ





งาม อีกเช่นเคยค่ะสำหรับวัดนี้ คุณลุงปล่อยให้ดิฉันไปเดินจงกรมรอบโบสถ์หนึ่งรอบแบบไพรเวท มีความสุขมาก เดินกางร่ม สงบจิตใจ  มีเสียงกระดิ่งที่ห้อยดังกรุ๊งกริ๊งๆ คลอเบาๆ   ลืมลูก ลืมผัว ลืมกิ๊กหมดเลยค่ะ ณ จุดจุดนั้น




และอย่าลืมนมัสการ ศาลเจ้าพ่อทิพย์ช้างที่อยู่ข้างๆกันด้วยนะคะ  


วินาทีนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงหวยจะออกค่ะ รู้ใช่ไหมค๊ะ? น้องผักอธิษฐานอะไร  


อธิษฐานแบบใจไม่ค่อยสงบเลย  เห็นมัลดิฟท์ ลอยอยู่ตรงหน้าอยู่ไหวๆ เอาเป็นว่าไม่ซีค่ะ ไม่ซี เพราะงวดนี้ยังไม่ใช่ทีของน้องผัก  เลยได้ชมวิวคลองแสนแสบหน้าคอนโดชดเชยไปก่อนแก้ขัด ..กรุบกริบ




ประวัติของท่านนะคะ




อ่อลืมบอกไปว่า นอกจากลำปางจะเป็นเมืองที่สวยงามแล้ว ยังเป็นCenter point เชือ่มต่อเส้นทางในการตามรอยไหว้พระแก้วมรกต ประจำเมืองเหนืออีกด้วยนะคะ




วิหารหลังนี้ดิฉันปลื้มค่ะ เห็นแล้วนึกถึง วัดเชียงทอง ที่หลวงพระบางที่ครั้งเพิ่งไปมาเมื่อเดือนธค .





ต่อกันด้วยวัดที่ ห้า  ของวันนี้ค่ะ บอกแล้วไงคะคุณลุงเสริ์ฟกันแบบnon stop ดิฉันปลื้มมากกก ...



วัดหลวงพ่อเกษม เขมะโกค่ะ  เป็นเกจิอาจาร์ยชื่อดังของทางเหนือเลย  มาเยือนลำปางอย่างน้อยต้องมาไหว้ท่านให้ได้หนนะคะ   ส่วนด้านในโบสถ์ก็ยังมีสังขารองค์จริงของท่านที่ไม่เปื่อยให้กราบสักการะอีกด้วยค่ะ




ต่อกันด้วยวัดที่ 6 เป็นวัดสุดท้ายสำหรับทริปนี้แล้วค่ะ  คัดมาเฉพาะวัดเด็ดๆ ที่ประมาณว่าคุณมาลำปางแล้วจะต้องไปให้ครบเลยนะคะ  ดิฉันทุ่มทุนสร้างสุดๆ ค่ะวันนั้น จริงๆกะจะไปแค่วัดพระธาตุที่เดียวด้วยซ้ำ แต่ดวงโคจรมาเจอคุณลุงน่ารักใจดีแบบนี้ ขอบอกเลยว่า พี่มันแย้ พี่แพ้คุณลุงอ่ะ ...  สัญญากันเอาไว้ว่ารอบหน้าถ้ามีโอกาสได้ไปอีกสัญญาว่าจะเก็บรอบเมืองพวกน้ำตกแจ้ซ้อนเอามาฝากให้ชมกันแน่นอนค่ะ


ชื่อวัด เจดีย์ซาวหลังค่ะ   ซาวภาษาเหนือแปลว่า ยี่สิบค่ะ  เจดีย์ซาวหลังก็คือ 20 หลังนั่นเอง   ลุงเล่าว่าหลายคนมาแล้วก็นับได้ 19 บ้าง  21 บ้าง ต้องนับให้ได้ 20 นะคะ  ลองดูกันสิคะจากภาพนับกันได้ 20 ไหมเอ่ย?


แอบจะสังเกตุได้วัดหลังๆ ดิฉันถ่ายรูปน้อยลงๆ เนื่องจากใจสู้แต่สรีระล้มเหลวแล้วค่ะ เหนื่อยสุดๆเพลียแดด   เวลายูวีกระแทกสาดร่างดิฉันที คำพูดพี่อุดม "ลำปางหนาวมาก"ก็ลอยเข้ามาในภวังค์ที  ประมาณเพลงปลุกใจอ่ะค่ะ เฮ้อ...




แวะซื้อของฝากกันพอหอมปากหอมคอ นะคะ  เพราะต้องเอาขนมข้าวแต๋นเอย  แคปหมูจากลำปางเอย  ไปแลกกับของฝากจากสิงค์โปร์ของที่บ้าน อิอิ  


แนะนำร้านนี้นะคะ เริ่ดค่ะ




นอกจากขนมอร่อยแล้ว  น้องลูกสาวเจ้าของร้านยังน่ารักและเป็นมิตรกับกะเทยมากอีกด้วย ดิฉันปลื้มอ่ะ  เพราะว่าตอนเดินเข้าไปในร้านน้องเค้าเห็นดิฉันกระเซอะกระเซิง เข้ามาในร้านหรือไงไม่ทราบ เปิดน้ำให้ดื่มแบบไม่ต้องซื้อเลยอ่ะ  ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า... หลงรักคนลำปางแล้วนะ!!




หลังจากนั้นคุณลุงก็ส่งดิฉันเข้าที่พัก (โรงแรมเวียงทอง)  ซึ่งเรามีนัดกันตอนห้าโมงครึ่ง เพื่อจะไปนั่งรถม้ากันค่ะ  มาลำปางไม่ได้นั่งรถม้าก็ประหนึ่งว่ามาไม่ถึงลำปางนะคะ ถึงแค่ลำพูน


ซึ่งดิฉันก็อาบน้ำทาแป้งหน้านวล( จริงคืออาบน้ำแต่ไม่ได้ล้างหน้าค่ะ  เพราะขี้เกียจติดกันสาด(ขนตาปลอมใหม่) อิอิ) ใส่ชุดสีฟ้าสีประจำสายการบิน สดใส มายืนรอคุณลุงอยู่หน้าโรงแรม

ซึ่งระหว่างนั้นสายตาดิฉันเหลือบไปเห็นป้ายนี้ ซึ่งตอนนี้ใครไปลำปางคงได้เห็นเพราะว่าติดกันทั่วเมืองเลยทีเดียวค่ะ  แหม๊..   เห็นแล้วมันคันนะคะอดไม่ได้ ที่จะขอพรีเซ้นท์


มองหาตากล้องสิคะ ได้ผลค่ะ  พี่ยามาดะ (ยาม)เดินมาพอดี ดิฉันกวักมือเรียก ไม่มีสิทธิวิ่งหนีค่ะ     ดิฉันยืนกล้องให้พร้อมกับโพสท์ท่าแบบรู้งานโดยอัตโนมัติทันทีค่ะ  หัวข่งหัวเข่าด้าน กางเกงเลอะช่างมัน เอาฮาไว้ก่อน     อ่อ...นี่นิตยาสารดิฉัน(ไม่ใช่คน) กับ แอล(นิม่อน)ก็มาทาบทามไปลงปกนะคะ แต่งานยุ่งมากเลยปฎิเสธไป ฮ่าฮ่าฮ่า

อ่อนึกภาพตามนะคะ  ตรงที่ถ่ายเป็นริมถนน ขณะที่ดิฉันถ่าย ทุกสายตาค่ะ ย้ำทุกสายตา โฟกัสมาที่ดิฉันเป็นจุดจุดเดียว  อย่าค่ะ อย่าคิดว่าดิฉันจะอาย คุณคิดผิด




และแล้วรถม้าของเราก็ควบมาแล้วค่ะ   เริ่ดมากกก ครั้งแรกค่ะสำหรับการนั่งรถม้า ตอนย่างกร้าวขึ้นไปแอ๊บว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงของวอลท์ดิสนีย์นะคะ


อ่อ เรามีเพื่อนนั่งไปกับเราด้วยค่ะ เป็นหลานคุณลุงเอง ตัวเล็กๆ สองคน อิอิ  ดีใจจังมีเพื่อน

โปรดสังเกตุสายตาน้องผู้หญิงนะคะ ...อย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่แคร์  เธอกลัวดิฉันค่ะตอนแรก เพราะเสียงไม่บัลล๊านซ์กับ(หนัง)หน้า

โอ๋ๆๆ อย่ากลัวนะลูกนะ




ได้ผลค่ะ เผลอแป๊บเดียว ก็ได้มิตรภาพน้อยๆ บนรถม้ากลับมาค่ะ  ถึงเสียงจะเป็นภัยต่อเด็ก แต่รอยยิ้มและแววตาเป็นมิตรค่ะ  รวมถึงใช้ตุ๊กตาน้องหมีบางกอกลูกชายเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ค่ะ  อิอิอ  งานนี้สบายๆค่ะ รักเด็กอยู่แล้ว  รู้จักนางงามเก่า เจ้าของรางวัล "เขาคิดว่าเขาสวยอะวอร์ด" น้อยไปหน่อยละ อิอิ



ระหว่างทาง พี่คาวบอยสุดเท่ห์จะจอดให้เราจุดต่างๆที่สำคัญค่ะ


อ่อ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 350 บาท ราคามาตรฐานค่ะ สำหรับรอบใหญ่ รอบเล็ก 250  แต่นะคะ มาลำปางทั้งทีต้องรอบใหญ่only ค่ะไม่ได้หานั่งง่ายๆ แถวสี่แยกเหม่งจ๋ายนะคะคุณ


จุดแรกสถานีรถไฟค่ะ




คือเทศบาลนครลำปางค่ะ  มีน้ำพุสวยมาก และจะสวยมากที่สุดในตอนกลางคืนค่ะอยู่ใกล้กับหอนาฬิกา


เหมาะสำหรับถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง  ตากล้องเหรอคะ น้องผู้ชายค่ะ  ส่วนนางแบบรับเชิญที่มาถ่ายมาประกบนี่ พอเธอเลิกกลัวแล้วปรากฎว่าเธอเริ่มคึกค่ะ ซนมากกกกกกก จะวิ่งใส่รถ กับ วิ่งหาสระน้ำอย่างเดียวเลย ต้องจับตัวไว้ตลอด เผลอวิ่งเผลอวิ่ง  น้องผักอ้วนใจหายแว๊ปไม่รู้กี่ทีต่อกี่ที กลัวหลานเค้าเป็นไรไปไม่รู้จะทำใช้ยังไง จนด้วยเกล้าจริงๆ    

เช่น รูปนี้นี่เองหลังจากถ่ายเสร็จ ดิฉันก็ปล่อยตัวเธอ จะเดินไปหยิบกล้องเช็คผลงานน้องผู้ชาย ปรากฎว่าเธอก็วิ่งงงงงงง วิ่งสุดชีไม่ลืมหูลืมตา แอบนึกใจ น้องแกนึกว่าตัวเองเป็นฟอเรสกั๊ม หรือป่าวเนี้ยะ  ป้าผักอ้วน ก็วิ่งไล่จับเข้าไปสิคะ เกิดป้าหกล้มนมต้มแตกขึ้นมาจะใครจะช่วยป้าหืออออ?(วิธีเดียวคือต้องโทรเรียกเฮลิคอปเตอร์โรงพยาบาลกรุงเทพ เอาป้าไปส่งโรงพยาบาลยันฮีให้ไวที่สุดนะ อิอิ)




จะหาว่าโม้ น้องผักอ้วนเป็นคนทำไรมีหลักมีฐาน



อีกจุดหนึ่งที่บอก recoment เอาไว้ช่วงแรกก็คือสะพานรัษฎาฯ ค่ะ  ช่วงโพล้เพล้ๆ น้องผักอ้วนตากผ้าอ้อมเนี่ย จะสวยมากกก..




ถ่ายกับพระอาทิตย์อัสดง  สวยเผ็ดอย่าบอกใคร  เดี่ยวในอนาคตเจ้ผักอ้วนจะดันน้องผู้ชายให้เป็นช่างภาพ แบบอาจาร์ยชานไม้ชายเขา  แบบพี่คอบบร้าโกลด์   ถ่ายรูปรีวิวๆ สวยๆมาลง BP



ถึงเวลาที่เราต้องกลับแล้วค่ะ


อ่อ สำหรับรถม้าถ้าเราอยากจะขอลงในส่วนตรงไหนเพิ่มความจำนงค์ได้เลยนะคะ แต่ดูรังสีอำมหิตของผู้คุมบังเหียนหน่อย น้องผักอ้วนคุณลุงติดต่อมาให้พี่เค้าน่ารัก ชิวๆ ไม่เร่งเลย อยากลงตรงไหนก็ลง





ระหว่างทางกลับผ่านหอนาฬิกาอีกรอบ   สวยดีนะคะ  เมืองลำปางยามเย็น





ไก่ขาว อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลำปางที่คุณจะได้พบเห็นตลอดระยะเวลาที่พำนัก




รวมถึงถ้วยชามตราไก่  เพราะ โรงงานฐานแม่เค้าอยู่ที่นี่เลยนะคะ




เด็กดูเหมือนว่าเลเว้ลจะตก  เหนื่อยเพลีย หรือคิดถึงป้าไม่อยากจาก ล่ะลูก อิอิ




เป็นอันปิดทริปสำหรับลำปางในวันนี้ รวมถึงต้องลาจากมิตรภาพดีๆ ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่าบนรถม้าด้วยค่ะ  พร๊อพ น้องตุ๊กตาหมีบางกอกที่หิ้วไปจากบ้าน   ทตั้งใจจะนำไปประกอบฉากรีวิว  เลยถูกส่งมอบให้กับเจ้าของใหม่ตัวน้อยๆ  คนในรูปค่ะ เอาคืนไม่ลงอ่ะ ให้เป็นของขวัญสำหรับมิตรภาพที่ได้มา เพราะมันมีค่าสำหรับน้องผักอ้วนสาวผู้รักการหนีสามีไปเที่ยวคนเดียวเป็นชีวิตจิตใจ จริงๆค่ะ




พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า  แสงสีของไฟเมืองลำปางเริ่มปรากฎให้เห็นถึงชีวิต Night life  ทันใดนั้นน้องผักอ้วนก็ได้พบกับร่างของน้องนางผู้บอบบางร่างหนึ่ง ผู้มีคุณลักษณะ ผมสั้น ไร้นม อารมณ์เกินหญิง  ปรากฎกายขึ้นที่ตรงหน้า ณ ขนส่งจังหวัดลำปาง

เธอคือ คุณชายธนกวี น้องสุดที่รักที่นั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่มานอนเป็นพี่สาวกะเทยที่ขึ้นชื่อได้ว่ากลัวผี ไม้แพ้ชาติใดในโลก

นี่คือโฉมหน้าผู้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับดิฉันในคืนนี้  นางคือไฮโซล้านนา  ไม่ใช่หนุ่มลำปางไมได้แอ้มดิฉันแน่นอนถึงแม้ว่าเวลาดิฉันเดินผ่านจะได้ยินเสียงผู้ชายน้ำลายหยดดัง "ถุ๊ยส์" อิอิ



ร้านไหนดีคะคุณน้องสำหรับปาร์ตี้นางฟ้าคืนนี้ อิอิ




หรือ




หรือ



หรือ  


ยอมไหมคะ กลางวันทำบุญเข้าวัด กลางคืนทำบาปเข้าผับ  อิอิ




ป่าวหรอกค่ะจริงๆไม่ได้เข้าหรอก ร้านที่ว่ามา แต่เราได้เพื่อนพาเที่ยวค่ะ เจอกันที่ร้านข้าวซอยตอนกลางวัน เค้าพาขับรถพาชมแสงสียามราตรีของเมืองลำปางรวมถึงสถานที่ต่างๆ ที่น่าเที่ยวในตอนกลางคืนค่ะ



อันนี้คนพื้นที่เค้าเรียกว่า สะพานออเร้จน์ ค่ะ



ซึ่งคนพาเที่ยวน้องเค้าน่ารักมากค่ะพาไปอีกหลายที แต่ด้วยความกระชับของรีวิวจึงขอฉีกกระฉากอารมณ์ผู้อ่านมายัง จุดสุดท้ายที่ใช้เป็นที่เลี้ยงส่ง สำหรับการพาเที่ยวคืนนี้   ธนกวีน้องสาวที่แนบมาด้วย เธอการันตรีว่า ล้ำขนาดค่ะ



เมนูแนะนำ






โฉมหน้าของอาหาร และ คนพาเที่ยวสำหรับ one night only @Lampang


แนะนำนะคะ ไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ ร้านออกแนว สุนทราภรณ์นิดๆ กะด้วยสายตา ลูกค้าทั้งร้านรวมกันอายุเกินอานามเกินหลักพัน แน่นอน มั่นใจ


เป็นอันเก็บครบเกือบทุกอย่างสำหรับ one day- night  trip สำหรับเมืองลำปาง เมืองที่มีอะไรมากกว่าที่ดิฉันคิด


ได้เวลาต้องจรลีกันแล้วค่ะ กลับมาเริ่มต้นที่นี่กันอีกครั้ง




สนามบินลำปางเป็นสนามบินเล็กๆ ค่ะ





ภายในอาคาร ประกอบด้วยห้องตั๋วเล็กและเค้าเตอร์ สองเค้าเตอร์ พนักงานหลายท่านเป็นสต๊าฟเก่าของสายการบินPB air ที่เคยทำการบินอยู่หลายปีแล้วหยุดไปเมื่อสองเดือนก่อนที่ PG จะเข้ามารับช่วง รวมถึงช่วยสานต่อหน้าที่การงานของน้องๆ พนักงานด้วยค่ะ




และอีกหนึ่งห้องตั๋ว พนักงานในห้องตั๋วสร้างความเซอร์ไพรส์ให้น้องผักอ้วนมากเพราะเธอบอกว่าเธอจำน้องผักอ้วนได้และติดตามผลงานประจำ  ตกใจอ่ะเพราะด้วยจรรยาบรรณของนักรีวิวสาวน้องผักอ้วนคาดตามาตลอดเลยนะ เพิ่งเปิดเผยใบหน้าครั้งนี้ครั้งแรกนะ  แปลว่าสวยทะลุโปรแกรมเซนเซอร์อ่ะ..ช่วยไม่ได้ อิอิ




ป้ายเขียนว่า   ชาวลำปางขอขอบคุณที่ท่านมาให้ชาวลำปางเห็นของแปลกนะเจ้า  อิอิ




มีมุมของว่างและเครื่องดื่มสำหรับผู้โดยสารระหว่างรอขึ้นเครื่องไว้บริการ เป็นซุ้มรถเล็กๆ แต่ของกินไม่เคยขาดนะคะ





Boardingpass ในส่วนขากลับจะมีแค่ใบเดียวตลอดสายค่ะ


สังเกตุแบล็คกราวด์ด้านหลังดีๆจะพบว่า มีเครื่องบินมาจอดรอเราแล้วนะคะ





กลับมาตุภูมิได้แล้วค่ะ  นานกว่านี้ไมได้ เดี่ยวSeason Change สามีเปลี่ยนแปลงบ่อย อิอิ


ลำนี้มีชื่อว่าน้องนางยวนนะคะ   เห็นเครื่องบินบางกอกแอร์เวยส์ แล้วคุณจะเคลียร์กับนิยามแห่งคำว่า สีสันแห่งการเดินทาง เลยใช่ไหมคะ  สีแบบว่าได้ใจน้องผักมากก ทุกลำ (น้องผักอ้วนนั่งครบหมดแล้วนะ 



เอิ่ม.. เชื่อหรือยังคะ ว่าสติ เริ่มไปแล้ว  ต้องลงภาพที่คนขึ้นเครื่องใช่ไหมคะ แต่ข้างบนคือภาพคนกำลังลง พลาดอย่างแรง อิอิ


ไม่เป็นไรค่ะ เอาเป้นว่าเข้าใจกันว่าน้องผักอ้วนจะสื่ออะไรเป็นใช้ได้

อำลาสนามบินลำปาง สัญญาว่าจะกลับมาสร้างปรากฎการณ์ช็อคโลกใหม่ๆ  คราวหน้า ชาวบ้านแถบอำเภอแจ้ซ้อนเตรียมตัว ...คุณคือรายต่อไป!!





ลูกเรือคนนี้สวยมาก ดิฉันชอบฝีมือการตวัด อายไลนเนอร์ของเธอมากกก ขอชมจากใจ




เสียงใบพัดสปินจากเครื่องATR ดังสนั่นลั่นเมือง   พร้อมกับพัดผ่านเมืองลำปางออกไปทีละนิดๆ  เหลือทิ้งไว้แต่ความทรงจำและความประทับใจเอาไว้ ...


อุ๊ย ตายตกใจตัวเอง เขียนสำนวนพวกนี้ออกมาได้



ได้เวลามื้ออาหารแล้วค่ะ  ทันที่ที่สิ่งนี้มาวางตรงหน้าดิฉันก็ผงะเล็กน้อยเพราะหน้าตาไม่คุ้นเคยกันมาก่อนตั้งแต่บินกับPG มาสามปีกว่า




สอบถามได้ความว่า มันคือ "ผักทอด" เก๋ไหม เก๋ค่ะ แปลกดีดิฉันชอบ  เพราะลำพังตัวดิฉันก็แปลกในระดับหนึ่ง ได้กินอะไรที่แปลกกว่า ย่อมรู้สึกแซ่บ อิอิ


แต่จะให้ดีกว่านี้น้องผักอ้วนว่าน่าจะแจกช้อนหรือไรนิดนึงเพราะ ว่ามันค่อนข้างมันมือมากมากกก ทานลำบาก น้ำจ้ง น้ำจิ้ม สัดสาดกระเด็นยิ่งกว่าซึ่นามิ ค่ะ ณ จุดนั้น




แปบเดียวก็มาถึงสนามบินสุโขทัยเพื่อเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารค่ะ  


แหม แล้วดิฉันอุตส่าห์เลือกนั่งทางขวา จะดูน้องควายเผือกซะหน่อย ปรากฎว่าเช้าเกินไปหรือไงไม่ทราบ โดนต้อนไปไหนหมดก็ไม่รู้ไม่เหลือสักกะตัวเดียว




ใบนี้ยังคงอยู่สถิตย์อยู่กับเรานะคะ อย่าหายนะคะ หายหาที่นอนที่สุโขทัยไปเลยนะคะ ไม่มีสิทธิ์กลับกรุงเทพค่ะ อิอิ ล้อเล่นค่ะ แต่เก็บไว้ดีๆนิดนึงเนอะ




แต่ชุดนี้ดิฉันชอบสุด ถ่ายเก็บไว้ทุกครั้งที่มีโอกาสมาสุโขทัย   ไม่ใช่ยาม ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในสายตาดิฉันเค้าคือลูกเสือชาวบ้าน ที่น่ารัก




ดูเอานะคะ ความน่ารักแค่ไหนไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยไขข้อนิ้ว





เหมือนเดิมค่ะ มีขนมและเครื่องดื่มไว้บริการ มีขนมรายการนี้เข้ามาใหม่เมื่อวานไม่เห็น

ไม่ได้ลอง test เลยไม่กล้า iden รสชาติให้ท่านผู้ชมฟังกันค่ะ




เพราะมีเรื่องสำคัญที่จะต้องทำมากกว่าการกินค่ะ


พี่เอ้ นนธวัช มาทำข่าวแถลงงาน “ตามรอย 9 พระพุทธสุดแผ่นดิน”  ค่ะ เดินทางกลับกับเราในไฟลท์นี้ด้วย

น้องผักอ้วนเข้าไปทักทาย พร้อมบอกพี่เค้าว่าจำพี่เค้าได้ เมื่อครั้งนานมากกกกกกก ตอนเป็นเด็ก ไปต่อแถวเคารพพระบรมศพของสมเด็จย่า ที่พระราชวังดุสิตปราสาท  เห็นพี่เค้ายืนรายงานข่าวอยู่ ดูพี่เค้าดีใจมากค่ะที่น้องผักอ้วนจำได้ อิอิ แต่เค้าจำน้องผักอ้วนไม่ได้หรอกตอนนั้น ยังหัวเกรียน หน้าเหมอืนปลาบู่ชนเขื่อน ใสๆ ไร้ซิลิโคนอยู่ อิอิ




สังเกตุทรงผมนางแบบนะค๊ะ   2 วัน 3 ทรง ชลาชลต้องยอมนะคะ เพราะนี่ทำที่ จะพาจน ค่ะ นั่งรถวนหาร้านเสริมสวย เปลี่ยนผมสามทรงไม่จนให้มันรู้ไป อิอิ


กลับบ้านล่ะค่ะ  ตุ๊บสุดท้ายแล้ว  น้องผักใกล้เป็นไท แล้วค่ะ  ไม่อยากจะบอกเลยว่าทำรีวิวเหนื่อยกว่าตอนไปเที่ยวอีก 55555





Take off  ด้วยความรวดเร็ว ขากลับจากสุโขทัย -กรุงเทพ ผู้โดยสารเต็มลำนะคะ   มองเห็นสนามบินสุโขทัยและโรงแรมเฮอริเทจ แบบชัดๆเลย ส่วนน้องควายเผือกสถานะ ยังกลัวกะเทยหรือไรไม่ทราบ ไม่ปรากฎกายเหมือนเดิม 




เมนูขากลับ นี้สิบดาวยังน้อยไปค่ะ ดาวท่วม ขอบอกเลยว่าบินกับPG มาตั้งแต่ยกเลิกเมนูอาหารร้อนบนเครื่องก็มีเมนูนี้ล่ะค่ะ ที่อร่อยเข้าท่า แต่ว่าคุณจะพบเจอเมนูนี้ได้ที่เส้นทาง สุโขทัย -กรุงเทพเท่านั้นนะคะ  เป็นข้าวหอมสุโข ปลูกเองจากสนามบินสุโขทัย  บอกได้เลยนะคะ ว่าต้องลอง กรีนตุ๊ดกู๊ดเทส ชิมแล้ว  ผ่านสุดๆๆๆๆ



ฮั่นแน่ คำอธิษฐานจากไฟลท์ก่อนเป็นจริงแอบมีช้อนโผล่มาให้เราได้หยิบยื่นมัน  เริ่ดค่ะ  แต่อยากบอกลูกเรือว่าNo Thanks ค่ะ เพราะเมนูข้าวเหนียวนี่ จกมือเริ่ดสุด อิอิ



ไม่กล้าเล่นมุขกุหลาบเหนือเมฆแล้วค่ะ ขากลับไม่ได้แต่งหน้า ไม่มั่นหน้า ไม่กล้าเอาตัวเองไปเปรียบกับอั้ม - นุ่น ขนาดส่องกระจกเห็นตัวเองยังตกใจ นึกว่า นักร้องผู้ชายผมยาวตามผับเพื่อชีวิต โทรมได้อีกนะค๊ะ




ถึงแล้วค่ะ หนองงูเห่า   เหนื่อยม๊ากค่ะ   ทันทีที่ล้อแตะเบรค ตบอกพร้อมบอกกับตัวเองในใจเลยว่า It' not easy to be fan แต่สู้ค่ะ 





จงอธิบายภาพต่อไปนี้ในเชิงวิทยาศาสตร์


ขอบอกว่าตอนถ่ายไม่เห็นนะคะกลับมาถึงบ้านเปิดเจอ ผงะแทบสิ้นสติค่ะ บอกดิฉันทีสิคะว่า ที่เห็นข้างหลังนั่นคือมนุษย์???? พี่ต้องการอะไร แล้วมาทำอะไรข้างหลังนั้น ??? สบตาสู้กล้องหนูเพื่อ???  หลอนมากกกกกกกก





ขอบคุณน้องนางยวน ที่มาส่งพี่นางกอ อย่างปลอดภัยนะคะ (นางกอ ภาษาเพศทางเลือกแปลว่า กะเทยค่ะ อิอิ)





รูปสุดท้ายแล้วค่ะ เอ้า เฮ


พลุ  พลุ  พลุ  พลุ  พลุ  พลุ  พลุ


Thank for look review with us  ขอบคุณที่ให้พื้นที่ให้น้องผักอ้วนได้บอกเล่าเรื่องที่สุดประทับใจจากการเดินทางที่ผ่านมา ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่อยู่เป็นเพื่อน รวมถึงทุกท่านๆที่เข้ามาเม้นท์เป็นกำลังใจให้กัน  


ติชมได้เต็มที่ค่ะ  น้องผักอ้วนนักรีวิวสาว มือใหม่สำหรับบ้านBlueplanet  ยินดีน้อมรับคำติชมไปพิจารณา

สำหรับท่านที่กำลังคิดจะไปลำปาง หรือชาวลำปางที่เดินทางกลับบ้าน ถ้ามีโอกาสลองให้บางกอกแอร์เวยส์เป็นตัวเลือกของคุณดู คุ้มค่ามากค่ะ ตอนนี้มีโปรโมชั่นอยู่จองได้ถึงสิ้นเดือน   เชื่อว่าหลายท่านที่มีโอกาสได้ลองสัมผัสบริการแบบfull service ภายใต้มาตรฐานความประทับใจแห่งเอเชีย  แล้วอาจจะหลงรักถอนตัวไม่ขึ้น ถึงขั้นยอมทิ้งตั๋วสิงค์โปร์แบบน้องผักอ้วนก็เป็นได้  อิอิ ของแบบนี้สิบนิ้วพิมพ์ไม่เท่าสองเท้าเดินไปสัมผัสเอง


สำหรับรีวิวนี้สวัสดีค่ะ